เมื่อไปถึงที่อเมริกาแล้วเพื่อนๆบางคนอาจจะพบว่าข้างของเครื่องใช้นั้นราคาค่อนข้างแพงพอสมควร ถ้าเพื่อนๆอยากซื้อของมือหนึ่งก็อาจจะไปซื้อตามห้างร้านต่างๆเช่น Walmart, Target หรือแม้แต่ Costco ซึ่งเป็นเหมือนกับ Makro บ้านเรา โดยถ้าเราซื้อของไปแล้ว ไม่ชอบ หรืออาจจะไม่ค่อยดีอย่างที่เราคิดเอาไว้ ก็สามารถนำของเหล่านั้นไปคืนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด บางคนบอกว่าเอาไปใช้ก่อน แล้วใช้ซักพักเบื่อๆแล้วเอาไปคืนได้มั๊ย ก็ต้องบอกว่าได้ แต่ไม่อยากแนะนำให้ทำเท่าไหร่ครับ ของซื้อของขายบางทีเราก็ต้องเข้าใจทางร้านค้าเค้าบ้าง ถึงเค้าจะร่ำรวยใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้ามันมีตำหนิจริงๆ มีปัญหาจริงๆ อย่าไปเกรงใจครับ เปลี่ยนได้ไม่มีปัญหา ถ้าเพื่อนๆอยากเช็คราคาของคร่าวๆก็ลอง Search และเข้าไปที่เวบของแต่ละร้านดูได้เลยครับ อย่างไรก็ดี สำหรับนักเรียนไทยหลายๆคนที่มีงบประมาณจำกัดก็อาจจะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไปในการเลือกซื้อของสำหรับห้องตัวเอง อาจจะมีเพื่อนๆที่บอกว่าไม่มายด์ในการซื้อของที่ใช้แล้วหรือของมือสอง ซึ่งก็จะมีหลายๆแหล่งให้เพื่อนๆเลือกซื้อกันได้เช่น การซื้อของตามร้านขายของมือสอง ซึ่งก็จะแทบทุกอย่างอะนะครับ ไล่ไปตั้งแต่พวกเฟอร์นิเจอร์ ตู้เตียงต่างๆ ไปจนถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ โดยร้านเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่รับบริจาคจากคนอื่นๆที่ไม่ใช้ของเหล่านี้แล้วและเป็นองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร สำหรับคุณภาพและราคาของแปรผันตามกันไป แต่ในบางครั้งก็อาจจะมีของที่เราต้องการใช้และคุณภาพดีแต่ราคาถูกก็มีให้เห็นอยู่เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นก็ต้องดูและเช็คของให้ดีๆนะครับ อย่างไรก็ตามหากว่าของที่ซื้อไปมีปัญหา โดยส่วนมากร้านเหล่านี้จะให้เปลี่ยนเป็นของที่มีมูลค่าเท่าๆกันโดยจะไม่มีการคืนเงินให้เหมือนร้านค้าอื่นๆทั่วไป สำหรับบางเมือง คนที่กำลังย้ายบ้านก็อาจจะมีการเอาของมาวางของตามสถานที่ที่เค้าจัดเอาไว้ให้หรือที่เรียกว่า Yard Sale หรืออาจจะมีการแปะประกาศให้เราไปดูที่บ้านเค้าหรือที่เรียกว่า Garage Sale ครับ โดยของพวกนี้ก็ยังเป็นของที่ใช้ได้ดีนะครับ เพียงแต่ว่าเจ้าของเค้าอาจจะไม่อยากขนไปด้วย แล้วก็อาจจะมองว่าไม่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งเพื่อนๆก็สามารถดูตามป้ายริมถนนครับ หรือตามบอร์ดต่างๆ เค้าก็จะเอามาแปะเอาไว้ว่าวันนี้จะขายเลยนะ […]
ก่อนที่จะอธิบายลักษณะของที่พักที่นักเรียนไทยส่วนใหญ่เลือกพักเมื่อเรียนต่อต่างประเทศกันนั้น ผมขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทต่างๆของห้องพักกันก่อนนะครับ Studio จะเป็นห้องพักที่มีขนาดเล็ก โดยมีพื้นที่การใช้สอยค่อนข้างจำกัด กล่าวคือ ห้องนอนและห้องนั่งเล่นอาจจะเป็นบริเวณเดียวกัน โดยอาจจะมีห้องครัวเล็กๆไว้ใช้สอย นอกจากนั้นบางแห่งอาจจะมีห้องน้ำในตัวหรืออาจจะต้องใช้ห้องน้ำรวม ข้อดีของห้องประเภทนี้ก็คือ ราคาจะถูกกว่าห้องพักรูปแบบอื่นๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากอยู่คนเดียวและมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ดี เนื่องจากห้องมีขนาดเล็ก การใช้สอยอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นบ้างเช่น เมื่อทำอาหาร อาจจะมีกลิ่นอาหารติดมาที่ห้องนอนเป็นต้น One Bedroom จะเป็นห้องพักแบบห้องนอนเดียว โดยอาจจะมีห้องนั่งเล่นแยกเป็นอีกห้องหนึ่งอย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งห้องนอนแบบ One Bedroom นั้นขนาดห้องจะใหญ่กว่าแบบ Studio อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้นตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ห้องประเภท One Bedroom นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบที่จะอยู่คนเดียว โดยที่อาจจะไม่มีปัญหาทางการเงิน Two Bedroom จะเป็นห้องพัก 2 ห้องนอน โดยอาจจะมีห้องน้ำ 1 หรือ 2 ห้อง นอกจากนั้นโดยปกติแล้วก็จะมีห้องนั่งเล่น และห้องครัวที่เป็นสัดส่วน โดยส่วนมาก ราคาแบบ Two Bedroom นั้นก็จะแพงกว่าห้องแบบ One Bedroom อยู่บ้าง อย่างไรก็ตามเมื่อหารค่าใช้จ่ายออกมาแล้วก็อาจจจะมีค่าใช้จ่ายต่อคนที่ถูกกว่าห้องแบบ One […]
สำหรับใบขับขี่ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นใบอนุญาติในการขับรถแล้ว โดยปกติใบขับขี่ก็สามารถใช้แทน ID สำหรับนักเรียนต่างชาติอย่างเราๆได้ด้วย พูดง่ายๆก็คือ ถ้าเพื่อนๆอยากจะไปเที่ยวผับ หรือเวลาซื้อของแล้วรูดการ์ดแล้วทางเจ้าหน้าที่ขอดู ID เราสามารถใช้ใบขับขี่แทนที่จะต้องมานั่งพก Passport ครับ ในการทำใบขับขี่นั้นก็จะมีกฎระเบียนและขั้นตอนในแต่ละรัฐที่อาจจะแตกต่างกันออกไปบ้าง อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วน่าจะมีหลักปฏิบัติและขั้นตอนต่างๆที่คล้ายๆกัน ซึ่งเพื่อนๆสามารถเช็ครายละเอียดการเตรียมเอกสาร ขั้นตอนการสมัคร รวมถึงคู่มือการสอบของแต่ละรัฐได้จาก http://www.dmv.org/ อย่างไรก็ดี ผมขอยกตัวอย่างขั้นตอนคร่าวๆของการสอบใบขับขี่ในรัฐ Colorado เพื่อให้เพื่อนๆได้มองเห็นภาพและอาจจะมีทริคเล็กๆน้อยๆรวมถึงความรู้ทั่วไปแฝงไปด้วยก็แล้วกันนะครับ ขั้นตอนการทำใบขับขี่ เตรียมเอกสาร โดยเอกสารที่จำเป็นสำหรับการยื่นสมัครสอบใบขับขี่ได้แก่ Passport และ Social Security Number ในกรณีที่เพื่อนๆไม่มี SSN ก็ต้องไปที่สำนักงานเพื่อให้ทาง SSN Office ออกจดหมายรับรองว่าไม่มี SSN นะครับ หลังจากที่เตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็นำเอกสารไปยื่นที่ DMV ของเมืองที่เพื่อนๆอาศัยอยู่เพื่อขอสอบข้อเขียนครับ โดยก่อนสอบข้อเขียน ทางเจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจเช็คตาบอดสี รวมถึงเรื่องอื่นๆด้วย ก็เหมือนเมืองไทยอะนะครับ ไม่มีอะไรพิเศษ สำหรับการสอบข้อเขียนนั้นไม่จำเป็นต้องโทรไปจองล่วงหน้า โดยข้อสอบจะมีด้วยกันทั้งสิ้น 25 ข้อ และต้องทำถูกให้ได้มากกว่า 20 ข้อจึงจะถือว่าสอบผ่านครับ หลังจากที่เพื่อนๆทำข้อสอบเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะเดินมาตรวจตรงนั้นเลยพร้อมทั้งเฉลยข้อที่เพื่อนๆทำผิดทั้งนี้หากเพื่อนๆสอบไม่ผ่านในครั้งแรก […]
เพื่อนๆควรกำหนดวันเดินทางให้ไปถึงอังกฤษในวันธรรมดา (วันจันทร์ถึงวันศุกร์) มากกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ (วันเสาร์และวันอาทิตย์) หรือวันหยุดราชการ เพื่อความสะดวกในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยหรือเจ้าหน้าที่หอพักและควรจะไปถึงอังกฤษในเวลาเช้า เพื่อความสะดวกในการเดินทางจากสนามบินไปยังจุดหมาย เนื่องจากบริการด้านคมนาคม เช่นรถไฟ รถโค้ช และรถแท็กซี่จะมีบริการในตอนกลางคืนค่อนข้างจำกัด และการที่เพื่อนๆไปถึงในช่วงเช้าก็จะทำให้มีเวลาขนย้ายสิ่งของและยังเป็นเวลาที่ร้านค้าต่างๆยังเปิดให้บริการอยู่ การเดินทางจากกรุงเทพควรเลือกเที่ยวบินที่ไปลงสนามบินนานาชาติในอังกฤษที่ใกล้กับเมืองที่เพื่อนๆไปมากที่สุด สนามบินในอังกฤษจะมีจุดเชื่อมต่อการคมนาคมที่สะดวก มีสถานีรถไฟเป็นของตัวเอง และมีรถบัสและรถโค้ชจากสนามบินไปยังเมืองอื่นๆ อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อนๆสามารถขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยได้จากเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยหรือขอคำแนะนำจากเพื่อนๆที่เคยไปเรียนเมืองนั้นๆได้ที่เว็บบอร์ดนี้ครับ เมื่อเดินทางมาถึงเพื่อนๆควรเตรียมเอกสารสำหรับแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองดังต่อไปนี้ หนังสือเดินทางพร้อมกับวีซ่านักเรียน จดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัย เอกสารการจองที่พักในอังกฤษ เอกสารผ่านการตรวจสุขภาพ เอกสารแสดงวุฒิการศึกษา เช่น Transcript / Certification ฉบับจริงหรือสำเนาที่มีการรับรองสำเนาถูกต้อง เมื่อเพื่อนๆผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและได้สัมภาระครบถ้วนแล้วก็เดินทางสู่เมืองที่ตั้งมหาวิทยาลัยปลายทางโดยเพื่อนๆอาจนั่งรถแท็กซี่ รถโค้ช หรือรถไฟ โปรดอ่านรายละเอียดประเภทของการเดินทางแต่ละรูปแบบได้ในหัวข้อการเดินทางในประเทศอังกฤษครับ การเดินทางในประเทศอังกฤษ ระบบขนส่งมวลชนในประเทศอังกฤษนั้นค่อนข้างสะดวกสบาย มีจุดเชื่อมโยงกันทำให้การคมนาคมนั้นสะดวก ผมจะขอแบ่งประเภทการเดินทางเป็นการเดินทางในเมืองที่พักอยู่และการเดินทางระหว่างเมือง โดยจะขอกล่าวถึงการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน ดังนี้ครับ I : การเดินทางระหว่างเมือง รถไฟ มีสถานีรถไฟอยู่ทั่วไปในอังกฤษ ราคาตั๋วรถไฟจะขึ้นอยู่กับประเภทของตั๋วซึ่งมีอยู่หลายประเภท ได้แก่ ตั๋วเที่ยวเดียว ตั๋วไปกลับในวันเดียว ตั๋วไปกลับระบุวัน และตั๋วไปกลับแบบไม่ระบุวัน ซึ่งตั๋วแบบไม่ระบุวันนี้นี้จะซื้อได้โดยไม่ต้องกำหนดวันเวลาหรือเที่ยวรถไฟ […]
สำหรับเพื่อนๆบางคนที่อยู่ในเมืองที่การคมนาคมไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก ก็อาจที่จะอยากซื้อรถส่วนตัวมาใช้ ทั้งนี้หากเพื่อนๆตัดสินใจที่จะซื้อรถมือหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีราคาที่แพงกว่า แต่ก็สามารถตัดปัญหาในส่วนของสภาพรถออกไปได้ อย่างไรก็ตาม นักเรียนไทยที่เรียนอยู่ในอเมริกาหลายๆคนก็เลือกที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการเลือกซื้อรถใช้แล้ว อย่างไรก็ตาม ก็อาจจะมีปัญหาต่างๆตามมาเช่นเรื่องของสภาพรถ เรื่องการต่อรองราคา เรื่องค่าซ่อมบำรุง หรือปัญหาอื่นๆตามมา ซึ่งในบางครั้งค่าใช้ซ่อมบำรุงอาจจะแพงมากและไม่คุ้มกันหากเลือกซื้อรถที่มีราคาถูกเกินไปโดยที่ไม่ทำการเช็คข้อมูลก่อน ผมจึงอยากรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกซื้อรถมือสองให้เพื่อนๆพอได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อรถมือสอง ขั้นตอนการเลือกซื้อรถ การเช็คราคากลาง ก่อนที่เพื่อนๆจะค้นหารถที่ต้องการนั้น ผมอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆเข้าไปในเวบ www.kbb.com เพื่อทำการเช็คราคากลางของรถเสียก่อน เพื่อที่ว่าเพื่อนๆจะได้มีการประมาณงบประมาณคร่าวๆในการเลือกซื้อรถแต่ละประเภท ทั้งนี้ในเวบดังกล่าวจะมีราคากลางทั้งในส่วนของรถมือหนึ่งและรถใช้แล้วดังนี้ ราคารถมือหนึ่งของทาง Kelly Blue Book แบ่งออกเป็น 3 กรณีคือ MSRP (Manufacturer Suggested Retail Price) โดยราคานี้ทางผู้ผลิตรถแต่ละยี่ห้อจะเป็นผู้กำหนดราคานี้มา โดยราคาที่แสดงจะเป็นราคาของรถที่มีอุปกรณ์ขั้นพื้นฐาน โดยไม่มีออพชั่นพิเศษอื่นๆเพิ่มเติม Invoice / Dealer Invoice เป็นราคาที่ทางผู้ผลิตรถทำการชาร์ตราคากับทาง Dealer เช่นเดียวกันราคาที่แสดงนั้นเป็นราคาของรถที่มีเพียงแค่อุปกรณ์ขั้นพื้นฐานเท่านั้น ทั้งนี้มีผู้แนะนำว่า หากเพื่อนๆต้องการซื้อรถมือหนึ่งให้พยายามต่อรองราคาให้ได้ที่ราคา Invoice เพราะเนื่องจากที่ราคานี้ ทาง Dealer เองก็จะได้กำไรอยู่แล้วจำนวนนึง แต่หากเพื่อนๆต้องซื้อที่ราคา MSRP ก็เสมือนกับว่าเพื่อนๆจะโดนชาร์ตราคาเพิ่มเติมเข้าไปอีก New […]
นอกจากการนั่งเครื่องบินซึ่งเหมาะสำหรับการไปเที่ยวในเมืองหรือรัฐที่ไกลๆแล้ว อีกหนึ่งวิธีที่เพื่อนๆสามารถเดินทางได้คือการขับรถเที่ยวไปยังเมืองหรือรัฐต่างๆที่ไม่ไกลจนเกินไปหรือที่เรียกว่า RoadTrip ทั้งนี้การเที่ยวแบบ Roadtrip ก็จะทำให้เพื่อนๆได้มีโอกาสสัมผัสความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากการท่องเที่ยวโดยการใช้เครื่องบิน นอกจากนั้นในบางแห่งหากเพื่อนๆไม่เช่ารถเที่ยวแล้วก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นบรรยากาศดังกล่าวเลยเช่น Highway One ริมทะเลจาก San Fran ลงไปทาง LA เป็นต้น โดยปกติแล้วเวลาการท่องเที่ยวแบบ Roadtrip นี้เพื่อนๆอาจจะนำรถของตัวเองไปก็ได้ อย่างไรก็ตามสำหรับเพื่อนๆที่ไม่อยากนำรถไปเองเนื่องจากกลัวว่าจะเกิดปัญหาระหว่างทางหรือไม่มีรถเป็นของตัวเองนั้น ก็สามารถเช่ารถไปท่องเที่ยวได้โดยมีค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบดังนี้ ค่าเช่ารถ ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆดังนี้ 1.1 ประเภทของรถยนต์ โดยประเภทของรถยนต์ก็ไล่ไปตั้งแต่ประเภท Economy, Compact, Intermediate, Standard, Full Size, Luxury, Minivan, Sport Utility, Large SUV, Truck และ Van ซึ่งรถยนต์แต่ละประเภทนั้น โดยทั่วไปแล้วก็จะมีเครื่องยนต์, จำนวนที่นั่งและวัตถุประสงค์การใช้ที่แตกต่างกันออกไป 1.2 อายุของคนขับ ถ้าคนขับมีอายุน้อยกว่า 25 ปี ทางบริษัทให้เช่ารถก็จะทำการชาร์ตราคาเพิ่มนะครับ 1.3 ระยะเวลาที่เช่า ทั้งนี้ทางบริษัทให้เช่ารถนั้นอาจจะมีราคาแบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนให้เพื่อนๆได้เลือก นอกจากนี้โดยปกติแล้ว […]
เรียนต่อนอกที่แคนาดา แคนาดามีนักเรียนต่างชาติมากกว่า 250,000 คน และพบว่านักเรียนต่างชาติสนใจที่จะมาเรียน เพิ่มมากขึ้นในหลายปีมานี้ แคนาดาเป็นที่รู้จักว่าเป็นประเทศที่มีธรรมชาติงดงาม เมืองสะอาด ระบบการดูแลสุขภาพและการขนส่งสาธารณะชั้นหนึ่ง โดยทั่วไปประเทศแคนาดานั้น เป็นประเทศที่สงบ ปลอดภัย มั่นคงทางการเมือง แคนาดาก่อตั้งขึ้นโดยผู้อพยพจากประเทศอื่นทุกวันนี้ ชาวแคนาดาภูมิใจในความหลากหลายของชนชาติ โดยหนึ่งในสามของชาวแคนาดามีภูมิหลัง เป็นเชื้อชาติอื่นนอกจากอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือชนพื้นเมือง โดยทั่วไป นักเรียนในแคนาดาจะได้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สงบสุขและมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีผู้คนที่เป็นมิตรและสนใจในการเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ นอกจากนี้ แคนาดายังมีอาณาเขตติดกับสหรัฐอเมริกาและสามารถเดินทางไปได้ง่าย ตามข้อมูลกองทุนการเงินระหว่างประเทศ แคนาดาเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งที่สุด 10 อันดับแรกของโลก ระบบการศึกษาที่ได้รับการยอมรับอย่างมาก อัตราการเติบโตและการขยายตัว และสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้แคนาดาเป็นประเทศที่เหมาะสำหรับการศึกษาชั้นสูง
เรียนต่อนอกที่นิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์ เป็นแหล่งการศึกษาที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมในระดับแนวหน้าประเทศหนึ่งของโลก มีสภาพที่เหมาะสมต่อการเรียนการสอน กระตุ้นให้นักศึกษารู้จักคิด มีเหตุมีผล รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ชาวนิวแลนด์ ยินดีต้อนรับนักศึกษาจากต่างชาติ และเปิดรับนักเรียนนักศึกษาในทุกระดับตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีและโพลีเทคนิค มหาวิทยาลัยและสถาบันสอนภาษาเอกชนและรัฐบาล โดยมีหลักสูตรสาขาวิชาให้เลือกมากมาย อีกประการหนึ่งที่น่าสนใจคือนิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยมากนัก ทำให้การเดินทางระหว่างสองประเทศเป็นไปได้อย่างสะดวก
เรียนต่อนอกที่ อังกฤษ อังกฤษมีสถานศึกษาที่ติดอันดับโลกพร้อมหลักสูตรที่หลากหลายและยืดหยุ่นได้ ระบบการศึกษาของอังกฤษใช้เรียนเวลาสั้นกว่าและเข้มข้นกว่า (include link to Education system page) ประเทศอื่นๆ ดังนั้น คุณสามารถจบการศึกษาเร็วขึ้นโดยไม่ต้องกังวลว่าคุณภาพจะด้อยไปกว่ากัน ซึ่งทำให้คุณประหยัดเวลาและเงินสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพ มหาวิทยาลัยต่างๆ มีการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่ารักษามาตรฐานสูงสุดในการสอน การเรียนรู้ และการวิจัย นอกจากนี้ ยังพยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ดูแลใส่ใจ และให้การสนับสนุนนักเรียนต่างชาติทุกคน มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยในอังกฤษมีการประเมินคุณภาพโดย Quality Assurance Agency (QAA)มาตรฐานการวิจัยมีการพิจารณาโดยคณะกรรมการจัดหาทุนสนับสนุนการศึกษาชั้นสูงของอังกฤษซึ่งจะมีการประกาศทุกๆ ห้าปี อังกฤษมีจำนวนมหาวิทยาลัยที่ติด 100 อันดับแรกมากเป็นที่สองตาม Times Higher Education World Reputation Rankings ปี 2013/2014 ระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักร ระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักรในระดับปริญญา แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ หลักสูตรปริญญาตรี และ หลักสูตรที่สูงกว่าปริญญาตรี ประกอบด้วย Taught course และ Research สถาบันอุดมศึกษา (Higher […]
เรียนต่อนอกที่อเมริกา ระบบการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกามีหลายสาขาวิชาให้นักศึกษาชาวต่างชาติเลือก นักศึกษาจะต้องทำการตัดสินใจเลือก ตั้งแต่ประเภทของโรงเรียน หลักสูตรวิชาเรียน และสถานที่ตั้งของโรงเรียน ซึ่งมีตัวเลือกให้เลือกอย่างมากมายล้นหลาม ดังนั้นการที่นักศึกษาจะทำการตัดสินใจเลือกที่เรียนได้นั้น นักศึกษาต้องทำความเข้าใจ กับระบบการศึกษาของประเทศนี้ก่อน เพื่อช่วยให้นักศึกษาสามารถเลือกโรงเรียนและวางแผนการศึกษาของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สหรัฐอเมริกามีระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่ยอมรับ มหาวิทยาลัยดีที่สุดในโลก 7 ใน 10 อันดับแรกอยู่ในอเมริกาตามการจัดอันดับของ Times Higher Education World University Rankings ปี 2013/2014 โดยในกลุ่มมหาวิทยาลัยดีที่สุด 200 อันดับแรกเป็นมหาวิทยาลัยในอเมริกาถึง 76 แห่ง ด้วยอาณาเขตที่กว้างใหญ่ของสหรัฐอเมริกาทำให้มีสถานศึกษาจำนวนมาก ซึ่งนักเรียนสามารถเลือกได้ตามความสนใจส่วนบุคคล มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางเหมือนกับเมืองๆ หนึ่ง และวิทยาลัยขนาดเล็กที่มีนักเรียนน้อยและรู้จักกันหมด หมู่เกาะเขตร้อนชื้น ทะเลทรายแห้งแล้ง ทุ่งหิมะ แกรนด์แคนยอน แคลิฟอร์เนีย และนิวยอร์กซิตี้ ไม่ว่าคุณจะชอบแบบไหน อเมริกามีทุกอย่างให้เลือก ระบบการศึกษาของสหรัฐอเมริกาในระดับอุดมศึกษา (Higher Education) ปริญญาตรี หรือ Undergraduate โดยทั่วไปแล้วหลักสูตรนี้จะใช้เวลา 4 ปี มีสาขาวิชาที่เปิดรับมากมาย เปิดสอนทั้งสาขาศิลปศาสตร์ (B.A.), สาขาวิทยาศาสตร์ […]